CLIMBERS – วิตามินเม็ดฟู่ละลายน้ำ “เกรดคุณภาพ” จากประเทศเยอรมันนี

CLIMBERS – วิตามินเม็ดฟู่ละลายน้ำ

ประโยชน์ของ “วิตามิน” แต่ละชนิดใน CLIMBERS

  1. ช่วยสร้างภูมิต้านทานต่อการติดเชื้อในทางเดินหายใจ
  2. ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการมองเห็น ช่วยรักษาโรคตาได้หลายโรค
  3. ช่วยสร้างเม็ดสีที่มีคุณสมบัติด้านความไวต่อแสง
  4. ช่วยทำให้ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายของเรา ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  5. ช่วยลดระยะเวลาการเจ็บป่วยจากโรคต่างๆ ได้เป็นอย่างดี
  6. ช่วยลดจุดด่างดำ รอยแผลเป็น รอยแผลสิวที่ผิวหนังได้ดี
  7. ช่วยสร้างเนื้อเยื่อชั้นนอกของอวัยวะต่างๆ ให้มีสุขภาพดีขึ้น
  8. ช่วยรักษาโรคถุงลมโป่งพอง และไทรอยด์เป็นพิษได้
  9. หากใช้ทาบริเวณผิวหนังจะช่วยรักษาสิวได้ ลดริ้วรอยตื้นๆ
  10. ช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของร่างกาย ผิวพรรณ ผม ฟัน เหงือก และเพิ่มความแข็งแรงของกระดูก
  11. ช่วยรักษาโรคผิวหนังชนิดเป็นตุ่มพุพอง ที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ฝี ชันนะตุ และแผลเปิดต่างๆ ผลจากการขาดวิตามินเอ จะทำให้นัยน์ตาแห้ง มีอาการตาบอดตอนกลางคืน การขาดวิตามิน สาเหตุอาจมาจากการดูดซึมไขมันบกพร่องเรื้อรัง พบมากในวัยเด็กอายุไม่เกิน 5 ขวบ เนื่องจากการรับประทานอาหารไม่เพียงพอ
  1. ช่วยรักษาโรคจากการขาดวิตามินบี 1 ได้แก่โรคเหน็บชา
  2. ช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโต
  3. ช่วยย่อยอาหารจำพวกแป้งได้เป็นดี
  4. ช่วยบำรุงประสาท กล้ามเนื้อ และหัวใจให้ทำงานเป็นปกติ
  5. ช่วยบำรุงสมอง ความคิด สติปัญญาให้ดีขึ้น
  6. ช่วยบรรเทาอาการเมารถ เมาเรือ เมาเครื่องบิน
  7. ช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดหลังผ่าตัดทำฟัน
  8. ช่วยรักษาโรคงูสวัด
  9. วิตามินบี 1 มีคุณสมบัติในการขับปัสสาวะอย่างอ่อนๆ
  1. ช่วยในกระบวนการสร้างการเจริญเติบโต และสืบพันธุ์
  2. ช่วยในการเสริมสร้างบำรุงผิวพรรณ เล็บ และเส้นผม
  3. ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการมองเห็น ช่วยบรรเทาอาการอ่อนล้าของสายตา
  4. ช่วยในการผลิตเม็ดเลือดแดง ซ่อมแซมเนื้อเยื่อ
  5. ช่วยลดความเจ็บปวดจากไมเกรน
  6. ช่วยกำจัดอาการเจ็บแสบในปาก ริมฝีปาก และลิ้น
  7. ทำงานร่วมกับสารอื่นๆ ในการเผาผลาญอาหารประเภทแป้ง ไขมัน และโปรตีน
  1. ช่วยในการบำรุงผิวพรรณ
  2. ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล และไตรกลีเซอไรด์
  3. วิตามินบี 3 มีความจำเป็นต่อระบบประสาท และการทำงานของสมอง
  4. ช่วยเผาผลาญไขมัน และช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น
  5. ช่วยบรรเทาอาการปวดศีระษะจากไมเกรน
  6. ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด ลดความดันโลหิต
  7. ช่วยบรรเทาอาการท้องร่วง
  8. ช่วยลดอาการวิงเวียนศีรษะของโรคน้ำในหูไม่เท่ากัน
  9. ช่วยเพิ่มพลังงานที่ได้จากการย่อย และเผาผลาญอาหาร
  10. ช่วยรักษาอาการร้อนใน และกลิ่นปาก
  1. ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล และไตรกลีเซอไรด์
  2. ช่วยลดอาการข้างเคียงจากการใช้ยาปฏิชีวนะ
  3. ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานให้แก่ร่างกาย
  4. ช่วยในกระบวนการรักษาแผล
  5. ช่วยรักษาอาการช็อกหลังการผ่าตัด
  6. ช่วยป้องกันการอ่อนเพลียของร่างกาย
  7. ช่วยลดความเจ็บปวดจากโรคข้ออักเสบ ในผู้ป่วยบางรายได้
  8. ช่วยรักษาอาการเหน็บชาที่มือ และเท้า
  9. ช่วยในการเจริญเติบโตของร่างกาย
  1. ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานของร่างกายให้แข็งแรง
  2. ช่วยป้องกันการเกิดนิ่วในไต
  3. ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ
  4. ช่วยทำให้ร่างกายดูดซึมโปรตีน และไขมันได้ดียิ่งขึ้น
  5. ช่วยเปลี่ยนรูปของทริปโตเฟนให้เป็นไนอะซิน (วิตามินบี 3)
  6. ช่วยป้องกันโรคทางประสาท และโรคผิวหนังหลายชนิด
  7. ช่วยลดอาการคลื่นไส้ อาเจียน
  8. วิตามินบี6 ช่วยชะลอวัยได้
  9. เป็นยาขับปัสสาวะตามธรรมชาติ
  10. ช่วยลดอาการกล้ามเนื้อหดเกร็ง มือชา ขาเป็นตะคริว และปลายประสาทที่แขน/ขาอักเสบบางชนิด
  11. ช่วยลดอาการปากแห้ง และปัญหาด้านการปัสสาวะ ที่เกิดจากการรับประทานยาต้านอาการซึมเศร้าในกลุ่มไตรไซคลิก
  1. ช่วยให้ระบบประสาททำงานได้อย่างปกติ
  2. ช่วยให้กล้ามเนื้อในกระเพาะ และลำไส้ทำงานได้ดีขึ้น
  3. ช่วยบำรุงผิวหนัง ให้เปล่งปลั่ง เต่งตึง
  4. ช่วยบรรเทาอาการผื่นผิวหนังอักเสบ ผดผื่นคันต่าง ๆ
  5. ช่วยบำรุงเส้นผม ลดปัญหาการหลุดร่วงของเส้นผม และลดผมหงอก
  6. ช่วยบำรุงดวงตา และปากให้ชุ่มชื้น
  7. ช่วยบำรุงตับให้แข็งแรง ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  8. ช่วยในการเจริญของเซลล์เยื่อบุผิว
  9. ช่วยป้องกัน และบำรุงรักษาเล็บที่แห้งเปราะ
  10. ช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อ
  11. ช่วยในการเผาผลาญไขมัน และโปรตีน
  12. ช่วยเป็นส่วนประกอบของการสร้างน้ำตาล กรดอะมิโน และกรดไขมัน
  • ช่วยให้เจริญอาหาร แก้อาการอ่อนเพลีย
  • ช่วยป้องกันแผลร้อนในได้
  • ช่วยรักษาภาวะซีด หรือโลหิตจาง
  • ทำงานออกฤทธิ์คล้ายยาแก้ปวด
  • ช่วยบำรุงผิวพรรณ และสุขภาพ
  • ช่วยป้องกันพยาธิในลำไส้ และอาการแพ้จากอาหารเป็นพิษ
  • ช่วยป้องกันการพิการของเด็กทารกแรกเกิด
  • ช่วยในการสร้างน้ำนมของมารดา หลังคลอดบุตร
  • ช่วยชะลอให้ผมขาวช้าลง หากรับประทานร่วมกับพาบา และวิตามินบี 5
  • ช่วยลดระดับของกรดอะมิโนโฮโมซิสเทอีนในเลือด
  • ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจได้
  • ช่วยแก้ปัญหาสีผิวไม่สม่ำเสมอได้
  • ช่วยบำรุงประสาท ทำให้ระบบประสาทแข็งแรงขึ้น
  • ช่วยเพิ่มสมาธิ ความจำ และการทรงตัว
  • ช่วยบรรเทาอาการหงุดหงิด ลดความเครียด
  • ช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโต และเพิ่มพลังงานให้แก่ร่างกาย
  • ประโยชน์วิตามินบี 12 ช่วยทำให้เด็กเจริญอาหาร
  • ทำให้ร่างกายสามารถใช้ไขมัน โปรตีน และคาร์โบไฮเดรตได้อย่างเหมาะสม
  • มีส่วนช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ
  • ประโยชน์ของวิตามินบี 12 ช่วยสร้างเม็ดเลือดแดง ป้องกันโรคโลหิตจาง
  • ช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งจากการสูบบุหรี่
  • ปริมาณ 80 ไมโครกรัมต่อวัน จะช่วยเสริมสร้างความแข็งของกระดูก และช่วยป้องกันการเกิดโรคกระดูกพรุนได้
  1. ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ชะลอความแก่ และลดการเกิดริ้วรอยแห่งวัย
  2. การรับประทานเป็นประจำจะช่วยให้ผิวใส เนียน นุ่มลื่นอย่างเป็นธรรมชาติ
  3. ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายแข็งแรง และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
  4. ช่วยในการรักษา และป้องกันโรคหวัด
  5. ช่วยป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน
  6. ประโยชน์วิตามินซี ช่วยลดความเสี่ยง และป้องกันการเกิดโรคมะเร็งได้หลายชนิด
  7. ช่วยต่อต้านการสร้างสารไนโตรซามีน (สารก่อมะเร็ง)
  8. ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด
  9. ประโยชน์ของวิตามินซี ช่วยลดความดันเลือด
  10. ช่วยลดการเกิดเส้นเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำ
  11. ช่วยต่อชีวิตให้เซลล์ โดยช่วยให้โปรตีนในเซลล์เกาะเกี่ยวกันได้ดีขึ้น
  12. ช่วยเพิ่มการดูดซึมของธาตุเหล็ก
  13. เป็นยาระบายตามธรรมชาติ
  14. เพิ่มประสิทธิภาพของยา ที่ใช้ในการรักษาโรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ
  15. ช่วยลดอาการที่เป็นผลมาจากสาร ที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้
  16. ช่วยป้องกันการติดเชื้อไวรัส และแบคทีเรียหลายชนิด
  17. ช่วยเร่งให้แผลหลังผ่าตัดหายเร็วยิ่งขึ้น
  18. ช่วยในการรักษาแผลสด แผลไหม้ให้หายเร็วยิ่งขึ้น
  1. ช่วยลดความเครียด และช่วยต้านภาวะซึมเศร้า
  2. ช่วยให้การนอนหลับดีขึ้น
  3. ช่วยให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมได้ดี
  4. ช่วยในการดูดซึมวิตามินเอให้ได้เร็วขึ้น
  5. ช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย
  6. ช่วยป้องกันโรคภูมิแพ้, โรคแพ้ภูมิตัวเอง(SLE)
  7. ช่วยในการรักษาโรคเยื่อบุตาอักเสบ
  8. ช่วยบรรเทาอาการปวดรูมาตอยด์
  9. ช่วยฟื้นฟูร่างกายผู้ป่วยโรคข้อเข่าเสื่อม
  10. ช่วยการทำงานของระบบสังเคราะห์สารสื่อประสาท (neurotransmitter)
  11. หากรับประทานร่วมกับวิตามินเอ และวิตามินซี จะช่วยป้องกันโรคหวัดได้
  1. ช่วยทำให้แลดูอ่อนกว่าวัย โดยชะลอกระบวนการเสื่อมสภาพของเซลล์
  2. ช่วยป้องกันการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชัน ของคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี
  3. ช่วยนำออกซิเจนเข้าสู่ร่างกาย เพื่อเพิ่มสมรรถภาพความทนทาน
  4. ช่วยปกป้องปอดจากมลพิษทางอากาศ โดยทำงานร่วมกับวิตามินเอ
  5. ช่วยป้องกันโรคมะเร็งได้หลายชนิด
  6. ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ในการต่อสู้กับโรคให้เม็ดเลือดขาวชนิดทีเซลล์
  7. ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งเต้านม
  8. ช่วยป้องกัน และสลายลิ่มเลือด
  9. ช่วยบรรเทาอาการอ่อนเพลีย
  10. ช่วยลดโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นต้อกระจก
  11. ช่วยป้องกันแผลเป็นหนานูน ทั้งภายนอก และภายใน
  12. ช่วยเร่งให้แผลไหม้บริเวณผิวหนังหายเร็วยิ่งขึ้น
  13. ทำงานคล้ายยาขับปัสสาวะ ช่วยลดความดันโลหิต
  14. ช่วยในการป้องกันภาวะแท้ง
  15. ช่วยบรรเทาอาการตะคริวหรือขาตึง
  16. ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด และอัมพฤกษ์ อัมพาต
  17. ช่วยลดความเสี่ยง และความรุนแรงของโรคอัลไซเมอร์ได้
  1. ช่วยสร้างภูมิต้านทานต่อการติดเชื้อในทางเดินหายใจ
  2. ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการมองเห็น ช่วยรักษาโรคตาได้หลายโรค
  3. ช่วยสร้างเม็ดสีที่มีคุณสมบัติด้านความไวต่อแสง
  4. ช่วยทำให้ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายของเราทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  5. ช่วยลดระยะเวลาการเจ็บป่วยจากโรคต่างๆ ได้เป็นอย่างดี
  6. ช่วยลดจุดด่างดำ รอยแผลเป็น รอยแผลสิวที่ผิวหนังได้ดี
  7. ช่วยสร้างเนื้อเยื่อชั้นนอกของอวัยวะต่างๆ ให้มีสุขภาพดีขึ้น
  8. ช่วยรักษาโรคถุงลมโป่งพอง และไทรอยด์เป็นพิษได้
  9. หากใช้ทาบริเวณผิวหนังจะช่วยรักษาสิวได้ ลดริ้วรอยตื้นๆ
  10. ช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของร่างกาย ผิวพรรณ ผม ฟัน เหงือก และเพิ่มความแข็งแรงของกระดูก
  11. ช่วยรักษาโรคผิวหนังชนิดเป็นตุ่มพุพอง ที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ฝี ชันนะตุ และแผลเปิดต่างๆ ผลจากการขาดวิตามินเอ จะทำให้นัยน์ตาแห้ง มีอาการตาบอดตอนกลางคืน การขาดวิตามิน สาเหตุอาจมาจากการดูดซึมไขมันบกพร่องเรื้อรัง พบมากในวัยเด็กอายุไม่เกิน 5 ขวบ เนื่องจากการรับประทานอาหารไม่เพียงพอ
  1. ช่วยรักษาโรคจากการขาดวิตามินบี 1 ได้แก่โรคเหน็บชา
  2. ช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโต
  3. ช่วยย่อยอาหารจำพวกแป้งได้เป็นดี
  4. ช่วยบำรุงประสาท กล้ามเนื้อ และหัวใจให้ทำงานเป็นปกติ
  5. ช่วยบำรุงสมอง ความคิด สติปัญญาให้ดีขึ้น
  6. ช่วยบรรเทาอาการเมารถ เมาเรือ เมาเครื่องบิน
  7. ช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดหลังผ่าตัดทำฟัน
  8. ช่วยรักษาโรคงูสวัด
  9. วิตามินบี 1 มีคุณสมบัติในการขับปัสสาวะอย่างอ่อนๆ
  1. ช่วยในกระบวนการสร้างการเจริญเติบโต และสืบพันธุ์
  2. ช่วยในการเสริมสร้างบำรุงผิวพรรณ เล็บ และเส้นผม
  3. ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการมองเห็น ช่วยบรรเทาอาการอ่อนล้าของสายตา
  4. ช่วยในการผลิตเม็ดเลือดแดง ซ่อมแซมเนื้อเยื่อ
  5. ช่วยลดความเจ็บปวดจากไมเกรน
  6. ช่วยกำจัดอาการเจ็บแสบในปาก ริมฝีปาก และลิ้น
  7. ทำงานร่วมกับสารอื่นๆ ในการเผาผลาญอาหารประเภทแป้ง ไขมัน และโปรตีน
  1. ช่วยในการบำรุงผิวพรรณ
  2. ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล และไตรกลีเซอไรด์
  3. วิตามินบี 3 มีความจำเป็นต่อระบบประสาท และการทำงานของสมอง
  4. ช่วยเผาผลาญไขมัน และช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น
  5. ช่วยบรรเทาอาการปวดศีระษะจากไมเกรน
  6. ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด ลดความดันโลหิต
  7. ช่วยบรรเทาอาการท้องร่วง
  8. ช่วยลดอาการวิงเวียนศีรษะของโรคน้ำในหูไม่เท่ากัน
  9. ช่วยเพิ่มพลังงานที่ได้จากการย่อย และเผาผลาญอาหาร
  10. ช่วยรักษาอาการร้อนใน และกลิ่นปาก
  1. ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล และไตรกลีเซอไรด์
  2. ช่วยลดอาการข้างเคียงจากการใช้ยาปฏิชีวนะ
  3. ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานให้แก่ร่างกาย
  4. ช่วยในกระบวนการรักษาแผล
  5. ช่วยรักษาอาการช็อกหลังการผ่าตัด
  6. ช่วยป้องกันการอ่อนเพลียของร่างกาย
  7. ช่วยลดความเจ็บปวดจากโรคข้ออักเสบ ในผู้ป่วยบางรายได้
  8. ช่วยรักษาอาการเหน็บชาที่มือ และเท้า
  9. ช่วยในการเจริญเติบโตของร่างกาย
  1. ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานของร่างกายให้แข็งแรง
  2. ช่วยป้องกันการเกิดนิ่วในไต
  3. ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ
  4. ช่วยทำให้ร่างกายดูดซึมโปรตีน และไขมันได้ดียิ่งขึ้น
  5. ช่วยเปลี่ยนรูปของทริปโตเฟนให้เป็นไนอะซิน (วิตามินบี 3)
  6. ช่วยป้องกันโรคทางประสาท และโรคผิวหนังหลายชนิด
  7. ช่วยลดอาการคลื่นไส้ อาเจียน
  8. วิตามินบี6 ช่วยชะลอวัยได้
  9. เป็นยาขับปัสสาวะตามธรรมชาติ
  10. ช่วยลดอาการกล้ามเนื้อหดเกร็ง มือชา ขาเป็นตะคริว และปลายประสาทที่แขน/ขาอักเสบบางชนิด
  11. ช่วยลดอาการปากแห้ง และปัญหาด้านการปัสสาวะ ที่เกิดจากการรับประทานยาต้านอาการซึมเศร้าในกลุ่มไตรไซคลิก
  1. ช่วยให้ระบบประสาททำงานได้อย่างปกติ
  2. ช่วยให้กล้ามเนื้อในกระเพาะ และลำไส้ทำงานได้ดีขึ้น
  3. ช่วยบำรุงผิวหนัง ให้เปล่งปลั่ง เต่งตึง
  4. ช่วยบรรเทาอาการผื่นผิวหนังอักเสบ ผดผื่นคันต่าง ๆ
  5. ช่วยบำรุงเส้นผม ลดปัญหาการหลุดร่วงของเส้นผม และลดผมหงอก
  6. ช่วยบำรุงดวงตา และปากให้ชุ่มชื้น
  7. ช่วยบำรุงตับให้แข็งแรง ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  8. ช่วยในการเจริญของเซลล์เยื่อบุผิว
  9. ช่วยป้องกัน และบำรุงรักษาเล็บที่แห้งเปราะ
  10. ช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อ
  11. ช่วยในการเผาผลาญไขมัน และโปรตีน
  12. ช่วยเป็นส่วนประกอบของการสร้างน้ำตาล กรดอะมิโน และกรดไขมัน
  • ช่วยให้เจริญอาหาร แก้อาการอ่อนเพลีย
  • ช่วยป้องกันแผลร้อนในได้
  • ช่วยรักษาภาวะซีด หรือโลหิตจาง
  • ทำงานออกฤทธิ์คล้ายยาแก้ปวด
  • ช่วยบำรุงผิวพรรณ และสุขภาพ
  • ช่วยป้องกันพยาธิในลำไส้ และอาการแพ้จากอาหารเป็นพิษ
  • ช่วยป้องกันการพิการของเด็กทารกแรกเกิด
  • ช่วยในการสร้างน้ำนมของมารดา หลังคลอดบุตร
  • ช่วยชะลอให้ผมขาวช้าลง หากรับประทานร่วมกับพาบา และวิตามินบี 5
  • ช่วยลดระดับของกรดอะมิโนโฮโมซิสเทอีนในเลือด
  • ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจได้
  • ช่วยแก้ปัญหาสีผิวไม่สม่ำเสมอได้
  • ช่วยบำรุงประสาท ทำให้ระบบประสาทแข็งแรงขึ้น
  • ช่วยเพิ่มสมาธิ ความจำ และการทรงตัว
  • ช่วยบรรเทาอาการหงุดหงิด ลดความเครียด
  • ช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโต และเพิ่มพลังงานให้แก่ร่างกาย
  • ประโยชน์วิตามินบี 12 ช่วยทำให้เด็กเจริญอาหาร
  • ทำให้ร่างกายสามารถใช้ไขมัน โปรตีน และคาร์โบไฮเดรตได้อย่างเหมาะสม
  • มีส่วนช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ
  • ประโยชน์ของวิตามินบี 12 ช่วยสร้างเม็ดเลือดแดง ป้องกันโรคโลหิตจาง
  • ช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งจากการสูบบุหรี่
  • ปริมาณ 80 ไมโครกรัมต่อวัน จะช่วยเสริมสร้างความแข็งของกระดูก และช่วยป้องกันการเกิดโรคกระดูกพรุนได้
  1. ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ชะลอความแก่ และลดการเกิดริ้วรอยแห่งวัย
  2. การรับประทานเป็นประจำจะช่วยให้ผิวใส เนียน นุ่มลื่นอย่างเป็นธรรมชาติ
  3. ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายแข็งแรง และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
  4. ช่วยในการรักษา และป้องกันโรคหวัด
  5. ช่วยป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน
  6. ประโยชน์วิตามินซี ช่วยลดความเสี่ยง และป้องกันการเกิดโรคมะเร็งได้หลายชนิด
  7. ช่วยต่อต้านการสร้างสารไนโตรซามีน (สารก่อมะเร็ง)
  8. ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด
  9. ประโยชน์ของวิตามินซี ช่วยลดความดันเลือด
  10. ช่วยลดการเกิดเส้นเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำ
  11. ช่วยต่อชีวิตให้เซลล์ โดยช่วยให้โปรตีนในเซลล์เกาะเกี่ยวกันได้ดีขึ้น
  12. ช่วยเพิ่มการดูดซึมของธาตุเหล็ก
  13. เป็นยาระบายตามธรรมชาติ
  14. เพิ่มประสิทธิภาพของยา ที่ใช้ในการรักษาโรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ
  15. ช่วยลดอาการที่เป็นผลมาจากสาร ที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้
  16. ช่วยป้องกันการติดเชื้อไวรัส และแบคทีเรียหลายชนิด
  17. ช่วยเร่งให้แผลหลังผ่าตัดหายเร็วยิ่งขึ้น
  18. ช่วยในการรักษาแผลสด แผลไหม้ให้หายเร็วยิ่งขึ้น
  1. ช่วยลดความเครียด และช่วยต้านภาวะซึมเศร้า
  2. ช่วยให้การนอนหลับดีขึ้น
  3. ช่วยให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมได้ดี
  4. ช่วยในการดูดซึมวิตามินเอให้ได้เร็วขึ้น
  5. ช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย
  6. ช่วยป้องกันโรคภูมิแพ้, โรคแพ้ภูมิตัวเอง(SLE)
  7. ช่วยในการรักษาโรคเยื่อบุตาอักเสบ
  8. ช่วยบรรเทาอาการปวดรูมาตอยด์
  9. ช่วยฟื้นฟูร่างกายผู้ป่วยโรคข้อเข่าเสื่อม
  10. ช่วยการทำงานของระบบสังเคราะห์สารสื่อประสาท (neurotransmitter)
  11. หากรับประทานร่วมกับวิตามินเอ และวิตามินซี จะช่วยป้องกันโรคหวัดได้
  1. ช่วยทำให้แลดูอ่อนกว่าวัย โดยชะลอกระบวนการเสื่อมสภาพของเซลล์
  2. ช่วยป้องกันการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชัน ของคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี
  3. ช่วยนำออกซิเจนเข้าสู่ร่างกาย เพื่อเพิ่มสมรรถภาพความทนทาน
  4. ช่วยปกป้องปอดจากมลพิษทางอากาศ โดยทำงานร่วมกับวิตามินเอ
  5. ช่วยป้องกันโรคมะเร็งได้หลายชนิด
  6. ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ในการต่อสู้กับโรคให้เม็ดเลือดขาวชนิดทีเซลล์
  7. ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งเต้านม
  8. ช่วยป้องกัน และสลายลิ่มเลือด
  9. ช่วยบรรเทาอาการอ่อนเพลีย
  10. ช่วยลดโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นต้อกระจก
  11. ช่วยป้องกันแผลเป็นหนานูน ทั้งภายนอก และภายใน
  12. ช่วยเร่งให้แผลไหม้บริเวณผิวหนังหายเร็วยิ่งขึ้น
  13. ทำงานคล้ายยาขับปัสสาวะ ช่วยลดความดันโลหิต
  14. ช่วยในการป้องกันภาวะแท้ง
  15. ช่วยบรรเทาอาการตะคริวหรือขาตึง
  16. ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด และอัมพฤกษ์ อัมพาต
  17. ช่วยลดความเสี่ยง และความรุนแรงของโรคอัลไซเมอร์ได้

ประโยชน์ของ “แร่ธาตุ” แต่ละชนิดใน CLIMBERS

  1. ช่วยในการเสริมสร้างเม็ดเลือดแดง
  2. ช่วยป้องกันอาการโรคโลหิตจาง
  3. ช่วยกำจัดโลหะหนักที่เป็นพิษออกจากร่างกาย
  4. ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ และเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อได้
  5. ช่วยเพิ่มภูมิต้านทานให้ร่างกาย ทำให้ร่างกายห่างไกลจากอาการเจ็บป่วย
  6. ช่วยให้เซลล์สมองของคนเราเจริญเติบโตได้ดี
  7. ช่วยป้องกันอาการอ่อนเพลียของร่างกาย
  8. ช่วยเพิ่มความงามให้แก่ผิว เพราะธาตุเหล็กจะช่วยทำให้ผิวพรรณของคนเราแลดูเรียบเนียน
  9. ธาตุเหล็กมีส่วนสำคัญต่อไขกระดูกในร่างกาย
  1. ช่วยให้กระดูก และฟันมีสุขภาพแข็งแรง
  2. ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคกระดูกเสื่อม และกระดูกหัก
  3. ช่วยลดความเสี่ยงของมะเร็งลำไส้ใหญ่
  4. ช่วยบรรเทาอาการนอนไม่หลับ
  5. มีส่วนช่วยให้จังหวะการเต้นของหัวใจเป็นปกติ
  6. ช่วยเผาผลาญธาตุเหล็กในร่างกาย
  7. ช่วยในการควบคุมน้ำหนัก
  8. ช่วยป้องกันการเกิดโรคกระดูกอ่อนในเด็ก
  9. ช่วยป้องกันการเกิดโรคกระดูกน่วม
  10. ช่วยป้องกันภาวะกระดูกพรุน
  11. ช่วยป้องกันอาการกระดูกหักง่ายในวัยสูงอายุ
  12. ช่วยเรื่องระบบประสาท โดยเฉพาะการส่งต่อสัญญาณประสาท
  1. แมงกานีสสามารถช่วยในการป้องกันโรคกระดูกพรุน
  2. ช่วยลดอาการอ่อนล้าของร่างกาย
  3. ช่วยเรื่องการทำงานของระบบประสาท ทำให้มีความจำดีขึ้น
  4. ช่วยลดอาการหงุดหงิดง่าย
  5. ช่วยในการผลิตน้ำนมสำหรับหญิงตั้งครรภ์
  6. ช่วยบรรเทาอาการของโรคลมบ้าหมู
  7. ช่วยสังเคราะห์กรดไขมัน และคอเลสเตอรอล
  8. ช่วยในการสร้าง และรักษาเม็ดเลือดแดง
  9. ช่วยในการเจริญเติบโตของร่างกาย ช่วยขับฮอร์โมนเพศในวัยเจริญพันธุ์
  10. ช่วยลดการเกิดไขมันสะสมตามร่างกาย โดยการเผาผลาญโปรตีน คาร์โบไฮเดรต และไขมัน
  11. ช่วยในกระบวนการตอบสนองของกล้ามเนื้อตามร่างกาย
  1. ช่วยสร้างฮีโมโกลบิน และผลิตพลังงานที่จำเป็นต่อร่างกาย โดยจะทำงานร่วมกับธาตุเหล็ก
  2. ช่วยป้องกันโรคจากการขาดแร่ธาตุทองแดง ได้แก่ โรคโลหิตจาง อาการบวม โรคของกระดูก และโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์
  3. ช่วยเปลี่ยนไทโรซีนให้เป็นเมลานิน ช่วยปล่อยพลังงานในเซลล์ และช่วยในการทำงานของระบบหายใจ
  4. ช่วยเป็นองค์ประกอบของน้ำย่อยเซลรูโลพลาสมิน Ceruloplasmin ซึ่งจะทำหน้าที่ในการต้านอนุมูลอิสระภายในร่างกาย และลดความเสี่ยงมะเร็ง
  5. ช่วยในการเมแทบอลิซึมของโปรตีน และช่วยในการสมานแผล ให้แผลหายแร็วขึ้น
  6. ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการออกซิไดส์วิตามินซีให้กับร่างกาย
  7. ทองแดงทำงานร่วมกับวิตามินซี เพื่อเสริมสร้างคอลลาเจนให้กับร่างกาย และสร้างอีลาสติน ที่มีความสำคัญในการบำรุง และเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิวหนัง
  8. ทองแดงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเสริมสร้าง และบำรุงกระดูก
  9. ทองแดงมีความจำเป็นต่อการสร้างกรดไรโบนิวคลีอิก หรือ RNA
  10. ทองมีความสำคัญต่อการสังเคราะห์ฟอสโฟลิปิด ซึ่งเป็นสารที่จะทำหน้าที่ในการสร้างไมเอลีนชีท ที่อยู่รอบเส้นประสาท
  1. ช่วยพัฒนาสมองควบคุมระบบประสาท ทำให้ความคิดความอ่านไวขึ้น
  2. ช่วยในการควบคุมน้ำหนักตัว โดยการเผลาผลาญไขมันส่วนเกิน
  3. ช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของร่างกาย
  4. ช่วยทำให้ร่างกายมีพลังงาน เพิ่มความกระตือรือร้นได้
  5. ช่วยบำรุงสุขภาพเส้นผม เล็บ ผิวพรรณ และฟัน ให้มีความแข็งแรง
  6. ช่วยกระตุ้นการทำงานของหัวใจให้ดีขึ้น
  7. ช่วยกระตุ้นให้มีการหลั่งน้ำนมของมารดาให้มากขึ้น
  8. ช่วยในการขับถ่ายปัสสาวะ ควบคุมการกระจายตัวของน้ำตามร่างกาย
  9. ช่วยป้องกันไม่ให้เด็กพิการ หญิงแท้งบุตรง่าย และอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศในผู้ชาย
  1. ช่วยในการเผาผลาญไขมัน และเปลี่ยนเป็นพลังงาน
  2. ช่วยควบคุมระดับคอเลสเตอรอล
  3. ช่วยรักษาอาการซึมเศร้าได้
  4. ช่วยป้องกันการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ
  5. ช่วยทำให้หลอดเลือด และหัวใจแข็งแรง ช่วยป้องกันโรคหัวใจเฉียบพลัน
  6. ช่วยลดความรุนแรงของการเจ็บปวด จากกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด (Anginapain)
  7. ช่วยให้สุขภาพฟันแข็งแรง
  8. ช่วยป้องกันการคลอดบุตรก่อนครบกำหนด
  9. ช่วยบรรเทาอาการปวดก่อนมีประจำเดือน (PMS)
  10. ช่วยบรรเทาอาการอาหารไม่ย่อยในกระเพาะ
  11. ช่วยป้องกันการสะสมตัวของแคลเซียม นิ่วในไต และนิ่วในถุงน้ำดีได้
  12. เมื่อทำงานร่วมกับแคลเซียมจะทำงานคล้ายยาสงบประสาท บรรเทาอาการปวดหัวไมเกรน
  13. ช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุนได้
  14. แมกนีเซียมมีส่วนช่วยในการป้องกัน และรักษาโรคหืดหอบ
  1. ช่วยควบคุมสมดุลของน้ำในร่างกาย และช่วยทำให้หัวใจเต้นเป็นปกติ
  2. ช่วยลดความดันโลหิต
  3. ช่วยบรรเทาอาการภูมิแพ้
  4. ช่วยให้มีสติปัญญา จิตใจร่าเริงแจ่มใสได้ โดยการส่งออกซิเจน ไปเลี้ยงที่สมองได้ดีขึ้น
  5. ช่วยกำจัดของเสียในร่างกาย
  1. ช่วยคงความยืดหยุ่นอ่อนเยาว์ของเนื้อเยื่อต่างๆ
  2. ช่วยป้องกันมะเร็งได้หลายชนิด
  3. ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ และเส้นเลือดในสมองตีบ
  4. ช่วยบรรเทาอาการร้อนวูบวาบ และอาการวัยทอง
  5. ช่วยรักษา และป้องกันรังแค
  6. ช่วยเพิ่มจำนวนสเปิร์ม และประสิทธิภาพการสืบพันธุ์ในผู้ชาย
  1. ช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตให้กับร่างกาย
  2. ซิงค์เป็นส่วนสำคัญต่อการสร้างโปรตีน และคอลลาเจน
  3. ซิงค์มีความจำเป็นต่อการสร้าง DNA
  4. ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานให้กับร่างกาย
  5. ซิงค์เป็นส่วนประกอบของเอนไซม์สำคัญมากมาย รวมทั้งสารต้านอนุมูลอิสระอย่างซูเปอร์ออกไซด์ดิสมิวเทส (SOD)
  6. ช่วยในการทำงานของสมอง ช่วยเพิ่มการตื่นตัวทางจิต
  7. ซิงค์ทำงานร่วมกับเอนไซม์แลคเตส และมาเลตดีไฮโดรจีเนส ซึ่งช่วยให้ร่างกายนำไปใช้ในขบวนการสร้างพลังงาน
  8. ซิงค์งานร่วมกับเอนไซม์อัลคาไลน์ฟอสฟาเตส ซึ่งช่วยในกระบวนการสร้างกระดูก และฟัน
  9. ช่วยในการรักษาสิว บรรเทาอาการอักเสบของสิว ด้วยการไปรักษาสมดุลของปริมาณไขมันในผิวหนัง ช่วยควบคุมปัญหาการเกิดสิวจากการอุดตันของไขมัน
  10. ประโยชน์ของซิงค์ ช่วยเพิ่มความรู้สึกทางเพศในผู้ชาย และยังช่วยป้องกัน และรักษาการเป็นหมันด้วย
  11. ช่วยให้ต่อมลูกหมากทำงานได้เป็นปกติ และเป็นส่วนสำคัญต่อการเจริญเติบโตของอวัยวะสืบพันธุ์
  12. ช่วยป้องกัน และรักษาอาการผมหลุดร่วงได้
  13. ช่วยป้องกันมะเร็งเต้านม มะเร็งหลอดอาหาร และหลอดลม
  14. ช่วยป้องกันโรคต่อมลูกหมาก และมะเร็งต่อมลูกหมาก
  15. ช่วยลดการสะสมตัวของคอเลสเตอรอล
  16. ช่วยลดระยะเวลาการเจ็บป่วย และบรรเทาอาการของโรคหวัด
  17. ช่วยคงสภาพการรับรู้รส กลิ่น และสายตา
  18. ช่วยในการรักษาผู้ป่วยทางจิต หรือโรคจิตเภท
  19. ช่วยรักษาภาวะการมีบุตรยาก
  20. ช่วยกำจัดจุดขาวบนเล็บมือ
  21. ช่วยเร่งให้แผลทั้งภายใน และภายนอกหายเร็วยิ่งขึ้น
  22. ช่วยลดอาการอักเสบ และรักษาโรครูมาตอยด์อาไทรลิส
  23. ช่วยควบคุมการหดตัวของกล้ามเนื้อตามร่างกาย
  24. ซิงค์มีความสำคัญต่อความเสถียรของเลือด ช่วยควบคุมสมดุลกรดด่างในร่างกาย
  25. ซิงค์เป็นส่วนหนึ่งของเอนไซม์แอลกอฮอล์ดีไฮโดรจีเนส ซึ่งทำหน้าที่ในการกำจัดแอลกอฮอล์
  1. ช่วยรักษาสมดุลระหว่างของเหลวภายใน และภายนอกเซลล์
  2. ช่วยเพิ่มปริมาณพลังงานที่เก็บไว้ในร่างกาย
  3. ช่วยให้เซลล์ ไต หัวใจ กล้ามเนื้อ และเส้นประสาททำงานอย่างถูกต้อง
  4. ช่วยรักษาปริมาตรของน้ำเลือดทั้งระบบ ให้มีขนาดพอดี
  5. ช่วยรักษาความดันเลือดให้อยู่ในระดับปกติ
  6. ช่วยรักษาระดับความเป็นกรดด่าง (pH)
  1. ช่วยในการเสริมสร้างเม็ดเลือดแดง
  2. ช่วยป้องกันอาการโรคโลหิตจาง
  3. ช่วยกำจัดโลหะหนักที่เป็นพิษออกจากร่างกาย
  4. ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ และเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อได้
  5. ช่วยเพิ่มภูมิต้านทานให้ร่างกาย ทำให้ร่างกายห่างไกลจากอาการเจ็บป่วย
  6. ช่วยให้เซลล์สมองของคนเราเจริญเติบโตได้ดี
  7. ช่วยป้องกันอาการอ่อนเพลียของร่างกาย
  8. ช่วยเพิ่มความงามให้แก่ผิว เพราะธาตุเหล็กจะช่วยทำให้ผิวพรรณของคนเราแลดูเรียบเนียน
  9. ธาตุเหล็กมีส่วนสำคัญต่อไขกระดูกในร่างกาย
  1. ช่วยให้กระดูก และฟันมีสุขภาพแข็งแรง
  2. ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคกระดูกเสื่อม และกระดูกหัก
  3. ช่วยลดความเสี่ยงของมะเร็งลำไส้ใหญ่
  4. ช่วยบรรเทาอาการนอนไม่หลับ
  5. มีส่วนช่วยให้จังหวะการเต้นของหัวใจเป็นปกติ
  6. ช่วยเผาผลาญธาตุเหล็กในร่างกาย
  7. ช่วยในการควบคุมน้ำหนัก
  8. ช่วยป้องกันการเกิดโรคกระดูกอ่อนในเด็ก
  9. ช่วยป้องกันการเกิดโรคกระดูกน่วม
  10. ช่วยป้องกันภาวะกระดูกพรุน
  11. ช่วยป้องกันอาการกระดูกหักง่ายในวัยสูงอายุ
  12. ช่วยเรื่องระบบประสาท โดยเฉพาะการส่งต่อสัญญาณประสาท
  1. แมงกานีสสามารถช่วยในการป้องกันโรคกระดูกพรุน
  2. ช่วยลดอาการอ่อนล้าของร่างกาย
  3. ช่วยเรื่องการทำงานของระบบประสาท ทำให้มีความจำดีขึ้น
  4. ช่วยลดอาการหงุดหงิดง่าย
  5. ช่วยในการผลิตน้ำนมสำหรับหญิงตั้งครรภ์
  6. ช่วยบรรเทาอาการของโรคลมบ้าหมู
  7. ช่วยสังเคราะห์กรดไขมัน และคอเลสเตอรอล
  8. ช่วยในการสร้าง และรักษาเม็ดเลือดแดง
  9. ช่วยในการเจริญเติบโตของร่างกาย ช่วยขับฮอร์โมนเพศในวัยเจริญพันธุ์
  10. ช่วยลดการเกิดไขมันสะสมตามร่างกาย โดยการเผาผลาญโปรตีน คาร์โบไฮเดรต และไขมัน
  11. ช่วยในกระบวนการตอบสนองของกล้ามเนื้อตามร่างกาย
  1. ช่วยสร้างฮีโมโกลบิน และผลิตพลังงานที่จำเป็นต่อร่างกาย โดยจะทำงานร่วมกับธาตุเหล็ก
  2. ช่วยป้องกันโรคจากการขาดแร่ธาตุทองแดง ได้แก่ โรคโลหิตจาง อาการบวม โรคของกระดูก และโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์
  3. ช่วยเปลี่ยนไทโรซีนให้เป็นเมลานิน ช่วยปล่อยพลังงานในเซลล์ และช่วยในการทำงานของระบบหายใจ
  4. ช่วยเป็นองค์ประกอบของน้ำย่อยเซลรูโลพลาสมิน Ceruloplasmin ซึ่งจะทำหน้าที่ในการต้านอนุมูลอิสระภายในร่างกาย และลดความเสี่ยงมะเร็ง
  5. ช่วยในการเมแทบอลิซึมของโปรตีน และช่วยในการสมานแผล ให้แผลหายแร็วขึ้น
  6. ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการออกซิไดส์วิตามินซีให้กับร่างกาย
  7. ทองแดงทำงานร่วมกับวิตามินซี เพื่อเสริมสร้างคอลลาเจนให้กับร่างกาย และสร้างอีลาสติน ที่มีความสำคัญในการบำรุง และเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิวหนัง
  8. ทองแดงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเสริมสร้าง และบำรุงกระดูก
  9. ทองแดงมีความจำเป็นต่อการสร้างกรดไรโบนิวคลีอิก หรือ RNA
  10. ทองมีความสำคัญต่อการสังเคราะห์ฟอสโฟลิปิด ซึ่งเป็นสารที่จะทำหน้าที่ในการสร้างไมเอลีนชีท ที่อยู่รอบเส้นประสาท
  1. ช่วยพัฒนาสมองควบคุมระบบประสาท ทำให้ความคิดความอ่านไวขึ้น
  2. ช่วยในการควบคุมน้ำหนักตัว โดยการเผลาผลาญไขมันส่วนเกิน
  3. ช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของร่างกาย
  4. ช่วยทำให้ร่างกายมีพลังงาน เพิ่มความกระตือรือร้นได้
  5. ช่วยบำรุงสุขภาพเส้นผม เล็บ ผิวพรรณ และฟัน ให้มีความแข็งแรง
  6. ช่วยกระตุ้นการทำงานของหัวใจให้ดีขึ้น
  7. ช่วยกระตุ้นให้มีการหลั่งน้ำนมของมารดาให้มากขึ้น
  8. ช่วยในการขับถ่ายปัสสาวะ ควบคุมการกระจายตัวของน้ำตามร่างกาย
  9. ช่วยป้องกันไม่ให้เด็กพิการ หญิงแท้งบุตรง่าย และอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศในผู้ชาย
  1. ช่วยในการเผาผลาญไขมัน และเปลี่ยนเป็นพลังงาน
  2. ช่วยควบคุมระดับคอเลสเตอรอล
  3. ช่วยรักษาอาการซึมเศร้าได้
  4. ช่วยป้องกันการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ
  5. ช่วยทำให้หลอดเลือด และหัวใจแข็งแรง ช่วยป้องกันโรคหัวใจเฉียบพลัน
  6. ช่วยลดความรุนแรงของการเจ็บปวด จากกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด (Anginapain)
  7. ช่วยให้สุขภาพฟันแข็งแรง
  8. ช่วยป้องกันการคลอดบุตรก่อนครบกำหนด
  9. ช่วยบรรเทาอาการปวดก่อนมีประจำเดือน (PMS)
  10. ช่วยบรรเทาอาการอาหารไม่ย่อยในกระเพาะ
  11. ช่วยป้องกันการสะสมตัวของแคลเซียม นิ่วในไต และนิ่วในถุงน้ำดีได้
  12. เมื่อทำงานร่วมกับแคลเซียมจะทำงานคล้ายยาสงบประสาท บรรเทาอาการปวดหัวไมเกรน
  13. ช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุนได้
  14. แมกนีเซียมมีส่วนช่วยในการป้องกัน และรักษาโรคหืดหอบ
  1. ช่วยควบคุมสมดุลของน้ำในร่างกาย และช่วยทำให้หัวใจเต้นเป็นปกติ
  2. ช่วยลดความดันโลหิต
  3. ช่วยบรรเทาอาการภูมิแพ้
  4. ช่วยให้มีสติปัญญา จิตใจร่าเริงแจ่มใสได้ โดยการส่งออกซิเจน ไปเลี้ยงที่สมองได้ดีขึ้น
  5. ช่วยกำจัดของเสียในร่างกาย
  1. ช่วยคงความยืดหยุ่นอ่อนเยาว์ของเนื้อเยื่อต่างๆ
  2. ช่วยป้องกันมะเร็งได้หลายชนิด
  3. ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ และเส้นเลือดในสมองตีบ
  4. ช่วยบรรเทาอาการร้อนวูบวาบ และอาการวัยทอง
  5. ช่วยรักษา และป้องกันรังแค
  6. ช่วยเพิ่มจำนวนสเปิร์ม และประสิทธิภาพการสืบพันธุ์ในผู้ชาย
  1. ช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตให้กับร่างกาย
  2. ซิงค์เป็นส่วนสำคัญต่อการสร้างโปรตีน และคอลลาเจน
  3. ซิงค์มีความจำเป็นต่อการสร้าง DNA
  4. ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานให้กับร่างกาย
  5. ซิงค์เป็นส่วนประกอบของเอนไซม์สำคัญมากมาย รวมทั้งสารต้านอนุมูลอิสระอย่างซูเปอร์ออกไซด์ดิสมิวเทส (SOD)
  6. ช่วยในการทำงานของสมอง ช่วยเพิ่มการตื่นตัวทางจิต
  7. ซิงค์ทำงานร่วมกับเอนไซม์แลคเตส และมาเลตดีไฮโดรจีเนส ซึ่งช่วยให้ร่างกายนำไปใช้ในขบวนการสร้างพลังงาน
  8. ซิงค์งานร่วมกับเอนไซม์อัลคาไลน์ฟอสฟาเตส ซึ่งช่วยในกระบวนการสร้างกระดูก และฟัน
  9. ช่วยในการรักษาสิว บรรเทาอาการอักเสบของสิว ด้วยการไปรักษาสมดุลของปริมาณไขมันในผิวหนัง ช่วยควบคุมปัญหาการเกิดสิวจากการอุดตันของไขมัน
  10. ประโยชน์ของซิงค์ ช่วยเพิ่มความรู้สึกทางเพศในผู้ชาย และยังช่วยป้องกัน และรักษาการเป็นหมันด้วย
  11. ช่วยให้ต่อมลูกหมากทำงานได้เป็นปกติ และเป็นส่วนสำคัญต่อการเจริญเติบโตของอวัยวะสืบพันธุ์
  12. ช่วยป้องกัน และรักษาอาการผมหลุดร่วงได้
  13. ช่วยป้องกันมะเร็งเต้านม มะเร็งหลอดอาหาร และหลอดลม
  14. ช่วยป้องกันโรคต่อมลูกหมาก และมะเร็งต่อมลูกหมาก
  15. ช่วยลดการสะสมตัวของคอเลสเตอรอล
  16. ช่วยลดระยะเวลาการเจ็บป่วย และบรรเทาอาการของโรคหวัด
  17. ช่วยคงสภาพการรับรู้รส กลิ่น และสายตา
  18. ช่วยในการรักษาผู้ป่วยทางจิต หรือโรคจิตเภท
  19. ช่วยรักษาภาวะการมีบุตรยาก
  20. ช่วยกำจัดจุดขาวบนเล็บมือ
  21. ช่วยเร่งให้แผลทั้งภายใน และภายนอกหายเร็วยิ่งขึ้น
  22. ช่วยลดอาการอักเสบ และรักษาโรครูมาตอยด์อาไทรลิส
  23. ช่วยควบคุมการหดตัวของกล้ามเนื้อตามร่างกาย
  24. ซิงค์มีความสำคัญต่อความเสถียรของเลือด ช่วยควบคุมสมดุลกรดด่างในร่างกาย
  25. ซิงค์เป็นส่วนหนึ่งของเอนไซม์แอลกอฮอล์ดีไฮโดรจีเนส ซึ่งทำหน้าที่ในการกำจัดแอลกอฮอล์
  1. ช่วยรักษาสมดุลระหว่างของเหลวภายใน และภายนอกเซลล์
  2. ช่วยเพิ่มปริมาณพลังงานที่เก็บไว้ในร่างกาย
  3. ช่วยให้เซลล์ ไต หัวใจ กล้ามเนื้อ และเส้นประสาททำงานอย่างถูกต้อง
  4. ช่วยรักษาปริมาตรของน้ำเลือดทั้งระบบ ให้มีขนาดพอดี
  5. ช่วยรักษาความดันเลือดให้อยู่ในระดับปกติ
  6. ช่วยรักษาระดับความเป็นกรดด่าง (pH)